Resident Evil 3 Remake เกมดีที่ไม่คุ้มราคาเกม
ได้เล่นกันถ้วนหน้าแล้วสำหรับใครที่รอ Resident Evil 3 Remake หลังจากที่กระแสภาค RE2 Remake ทำออกมาได้ดี งานนี้ก็เข็นภาค 3 ออกมาติดต่อกันภายในเวลาไม่นาน แม้ความสนุกของตัวเกมจะเข้าขั้นดีไม่ผิดหวัง แต่เมื่อมองโดยรวมไปถึงราคาแล้วกลับรู้สึกว่าเกมนี้ไม่ค่อยคุ้มค่าเสียเท่าไหร่
Resident Evil 3 Remake เกมดีที่ไม่คุ้มราคา
เกมส์คอนโซล ความสั้นของเกมคือปัญหาหลักที่ทำให้ RE3 Remake ดูไม่คุ้มราคาเสียเท่าไหร่ หากเทียบราคาเปิดตัวของ RE2 Remake ด้วยราคา 1,200 บาท (ราคาจาก Steam) แถมคุณได้เล่นเนื้อเรื่องแยกถึงสองตัวละคร แม้จะมีฉากที่เหมือนกันแต่ก็มีอีกหลายจุดที่แตกต่างรวมไปถึงบอสและเนื้อเรื่อง ทำให้อย่างน้อยๆ ก็ต้องใช้เวลาเล่นไม่ต่ำกว่า 10 ชม. เพื่อที่จะเคลียร์เรื่องราวทั้งหมด เมื่อเทียบกับ RE3 Remake ที่มีแค่เนื้อเรื่องของ Jill คนเดียว และสามารถจบได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 ชม. กับราคาเปิดตัวถึง 1,800 บาท จนแอบคิดว่าทั้งสองเกมนี้ตั้งราคาสลับกันรึเปล่า?
การเล่นรอบแรกที่ใช้เวลาจบไปอย่างไม่นานนัก (เก็บของครบ)
ฉากที่ไม่น่าตื่นเต้นและปริศนาที่ง่ายเกินไป
อีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้เกมสั้นก็คือเรื่องของฉากที่แทบจะไม่มีความซับซ้อน หลายสถานการณ์หากเราเดินครบก็จะรู้ได้แทบทันทีว่าจะต้องนำของชิ้นนั้นไปตรงนั้น ของชิ้นนี้กลับมาตรงนี้ ต่างจาก RE2 Remake ที่ภายในสถานีตำรวจค่อนข้างซับซ้อน และมีหลายสถานการณ์ที่ก่อให้เกิดการหลงทางได้ง่าย รวมไปถึงเรื่องของปริศนาที่ใน RE3 Remake เหมือนมีไว้แค่แก้ขัดเฉยๆ ไม่ได้ซับซ้อนและให้ความรู้สึกว่าเราต้องแก้ปริศนานั้นจริงๆ
ปริศนาที่แก้ได้ง่ายเกินไปจนไร้ความท้าทาย
Nemesis ที่ไร้ความน่าเกรงขาม
หากใครที่เล่น RE2 Remake มาก็คงจะรู้ถึงความน่ากลัวและกดดันของ Mr.X เป็นอย่างดี แม้จะเป็นศัตรูที่วิ่งไม่ได้ แต่ก้าวแต่ละก้าวของมันนั้นชวนกดดันเสียเหลือเกิน แถมด้วยฉากขนาดเล็กทำให้การหนีพ้นในบางสถานการณ์ก็เป็นเรื่องยาก เมื่อเทียบกับ Nemesis ที่ใครหลายคน (แม้แต่ตัวผู้เขียนเอง) ก็คิดว่าน่าจะโหดกว่า แต่กลับกลายเป็นว่าตัวมันนั้นไร้ซึ่งความกดดันอย่างสิ้นเชิง ด้วยความสั้นของฉากและการที่เรารู้จุดไปต่อได้ไม่ยาก ทำให้การวิ่งหนี Nemesis ไปเข้าฉากต่อไปทำได้แบบสบายๆ แถมการจัดการกับมันก็ทำได้ง่ายสุดๆ ด้วยการปาระเบิดเพียงลูกเดียวเท่านั้น นอกจากจะได้ชิ้นส่วนอาวุธแล้วก็ทำให้เราได้มีเวลาหนีมันแบบง่ายๆ เสมอ(โหมด Hardcore โดนระเบิดลูกเดียวก็ร่วงเช่นกัน) มีเพียงแต่ฉากที่เป็น Boss Fight ในช่วงเท่านั้น ที่รู้สึกสนุกกับมัน
ข้อดีของภาค Original ที่ไม่นำมาใช้
สิ่งที่ทำให้ RE3 ฉบับ Original นั้นมีความแตกต่างก็คือ “ทางเลือก” เวลาเจอกับ Nemesis ที่ผลการเลือกของเราจะส่งผลกับสถานการณ์นั้นๆ และเส้นทางบางส่วนที่แตกต่างออกไป แต่ในฉบับ Remake นั้นไม่มีลูกเล่นในส่วนนี้ใส่เข้ามาเลย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งส่วนที่น่าเสียดายมาก
ตัวเลือกในการเจอ Nemesis หรือสถานการณ์บางอย่างที่ถูกตัดหายไปในฉบับ Remake
การตัดเนื้อหาบางส่วนที่น่าจะมี
นอกจากฉากที่สั้นแล้วก็มีเรื่องของเนื้อหาที่เทียบกับฉบับ Original ดูจะตัดออกไปค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นฉากใน Clock Tower หรือจะเป็นช่วงที่คาลอสไปโรงพยาบาลเพื่อหายารักษาจิล ที่ฉบับ Remake กลับแบกร่างแล้วตัดฉากไปโผล่ที่โรงพยาบาลแบบดื้อๆ หรือจะเป็นบอสหนอนยักษ์ที่ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย มีเพียงแต่ Nemesis เท่านั้นที่ค่อยป่วนเราเพียงตัวเดียว แค่เพิ่มร่างและลูกเล่นของมันมากขึ้น แต่โดยรวมก็รู้สึกว่าน่าเสียดายที่ฉากบางอย่างไม่ถูกนำมาเล่าใหม่ในฉบับ Remake นี้
บอสหนอนและฉากอื่นๆ ที่ถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย (มีกบปากกว้างมาแทนละนะ)
แม้จะดูพูดถึงข้อเสียเยอะ แต่ในความสนุกของเกมนั้น Resident Evil 3 Remake ก็ทำออกมาได้ไม่แย่เลย และบอกเรื่องราวของมุมจิลในแบบเล่าใหม่ได้ดีมากขึ้น ฉากสู้ Boss Fight กับ Nemesis ก็ทำออกมาได้ดี ถึงอย่างนั้นเมื่อเทียบกับราคาของเกมก็ต้องยอมรับว่าให้ความรู้สึกไม่คุ้มเท่าไหร่ แม้จะมีการแถมโหมดมัลติเพลยเยอร์อย่าง Resident Evil Resistance มาด้วย ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมากนัก หนำซ้ำการนำมาติดแพครวมแบบนี้ ทำให้คนที่อยากเล่น Resistance อย่างเดียวต้องจ่ายราคาเต็มเพื่อซื้อ RE3 Remake มาด้วยแบบช่วยไม่ได้ ซึ่งนั่นก็ส่งผลร้ายกับตัว Resistance เองด้วยเช่นกัน ทำให้คนน้อยจนแม้จะเป็นเกมเพิ่งเปิดแต่ก็ใช้เวลาในการหาห้องนานมาก (เวอร์ชั่น Steam)
RE Resistance ที่แถมพ่วงมากับตัวเกมหลัก RE3 Remake ทำให้คนอยากเล่นแยกไม่สามารถเล่นได้
บางรอบรอเป็นครึ่งชม. ก็ยังไม่ได้เล่น แม้จะเป็นเกมเปิดใหม่ก็ตาม