PS5 Controller – เผยโฉมและรายละเอียดข้อมูลแรกของ DualSense
เกมส์คอนโซล PS5 Controller หรือที่เราเรียกกันจนติดปากว่า “จอยเพลย์ 5” ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเผยโฉมกันแล้วเมื่อสักช่วงราวๆ เช้ามืดของวันที่ 8 เมษายนตามเวลาประเทศไทย ซึ่งใครตื่นมาปัสสาวะกลางดึกก็อาจจะผ่านตากันบ้างแล้ว โดยมันได้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า DualSense พร้อมขายปลายปี 2020 นี้เฉกเช่นเดียวกับตัวเครื่อง PlayStation 5 ครับ ในเบื้องต้นเจ้า DualSense ได้รับการดีไซน์แบบใหม่แต่ยังคงไว้ซึ่งสิ่งที่เกมเมอร์รักจาก DualShock4 แม้กระนั้นมันก็มาพร้อมกับฟีเจอร์ล่าสุดที่เตรียมจะพาคุณเข้าสู่โลกของความเป็นเน็กซ์เจนเกมเมอร์แบบเต็มสูบ

ออกแบบสีเป็นทูโทนพร้อมวางไลท์บาร์ในจุดใหม่
คิดว่าสิ่งแรกที่สะดุดตาทุกๆ คนก็คงเป็นสีหลักสไตล์ทูโทนซึ่งเปลี่ยนมาจากสีดำอันเป็นสีหลักมาหลายเจนเนอเรชั่น นอกจากจากนี้ไลท์บาร์ซึ่งเคยอยู่ด้านบนของตัวคอนโทรลเลอร์ก็ถูกย้ายจุดมาติดตั้งข้างๆ Touchpad ทั้ง 2 ด้านแทน อ้างอิงจากปากคำของทาง Sony ที่บอกไว้ว่า “มันจะให้ภาพลักษณ์ที่ดูกว้างขึ้นและรู้สึกถึงมันได้มากขึ้น” นั่นเอง
ทรงใหม่คล้ายว่าจะหนาขึ้น
ไม่ใช่แค่สีใหม่ที่สะดุดตา แต่เจ้า DualSense ยังมีรูปทรงที่ต่างจาก DualShock4 อย่างเห็นได้ชัดชนิดที่ว่ามองปราดเดียวก็ดูออกแล้ว อีกทั้งยังดูเหมือนว่ามันจะมีความหนาที่มากขึ้น แม้ว่าเรายังไม่ได้ลองจับมันดูก็ตาม อ้างอิงจากปากคำของ Sony ที่บอกว่า ในส่วนของ Hand Trigger และตัว Grip ได้ถูกทำให้มีพื้นที่มากขึ้นเพื่อการนำเสนอฟีเจอร์ใหม่ๆ ตัวอย่างเช่น Adaptive Trigger เป็นต้น
Haptic Feedback และ Adaptive Triggers
2 ฟีเจอร์ใหม่ที่ทาง Sony ภูมิใจนำเสนอในเจ้า DualSense นี้ โดยทั้ง 2 ฟีเจอร์ถูกเพิ่มเติมเข้ามาเพื่อเติมเต็มอารมณ์ในการเล่นเกมของผู้เล่น โดย Haptic Feedback จะมาพร้อมบางสิ่งที่ Sony บอกว่า “สัมผัสถึงได้อย่างรุนแรง” ไม่แน่ใจว่าจะอธิบายอย่างไร แต่ง่ายๆ คือมันน่าจะเป็นระบบสั่นเดิมที่ถูกพัฒนาไปสู่อีกระดับ การทำงานของมันจะไม่ใช่แค่สั่นได้ แต่มันจะทำให้การควบคุมคอนโทรลเลอร์แปรเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ในเกม เช่น การควบคุมที่หนืดและติดขัดขึ้นเมื่อคุณพารถลงไปลุยโคลน เป็นต้น โดย Haptic Feedback มีเบื้องหลังเป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับฟีเจอร์ HD rumble ของ Nintendo Switch (ซึ่งคอนโทรลเลอร์ของ Xbox Series X ก็น่าจะมีระบบคล้ายกันนี้เช่นกัน) และจะทำงานสอดคล้องกับอีกหนึ่งฟีเจอร์อย่าง Adaptive Triggers ซึ่งจะถูกติดตั้งอยู่บนปุ่ม L2,R2 มาพร้อมระดับแรงต้านระหว่างกดปุ่มที่ต่างไปจากเดิม เสริมให้ความรู้สึกในการเล่นเกมสมจริงขึ้นไปอีกระดับ อย่างที่ Sony บอกไว้ว่า “คุณจะรู้สึกได้ถึงความตึงที่แท้จริง ระหว่างที่ขึ้นสายง้างธนูก่อนปล่อยศรใส่เป้าหมาย”

แบตเตอร์รี่รีชาร์จได้ที่มาพร้อมกับพอร์ท USB-C
จุดนี้ไม่ได้ทำให้ว้าวแต่เราดีใจมากที่ตัวคอนโทรลเลอร์เปลี่ยนมาใช้ Type C แล้ว คิดว่าน่าจะสะดวกกับหลายๆ คนแน่นอน
ไมโครโฟนบิลท์อิน
มีไมโครโฟนบิลท์อินมาในตัวคอนโทรลเลอร์ด้วยเพื่อใว้กดคุยกับเพื่อนโดยไม่จำเป็นต้องมี Headset แต่อย่างใด ถึงอย่างนั้นหากต้องเล่นเกมนานๆ หรือต้องการคุณภาพที่มากขึ้น ทาง Sony ก็ยังคงแนะนำให้คุณมี Headset ดีๆ ไว้สักตัวอยู่ดี
ปุ่ม Create
ปุ่ม Create เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่ที่เข้ามาแทน ปุ่ม Share เดิมของ DualShock4 แม้ว่าทาง Sony เองจะยังปฏิเสธการให้ความเห็นต่อเจ้าปุ่มนี้ว่าแตกต่างจากปุ่มเดิมอย่างไร แต่พวกเขาก็พูดถึงมันสั้นๆ ว่า “เป็นอีกครั้งที่พวกเราถางทางใหม่ให้กับผู้เล่นที่ต้องการจะสร้างคอนเทนต์เจ๋งๆ เพื่อแชร์ออกไปหรือแค่เก็บไว้ดูเองคนเดียว” คิดว่าเราน่าจะได้เห็นข้อมูลอีกชุดเพิ่มเติมตอนที่มันใกล้วางจำหน่ายนั่นแหละ
สุดท้ายนี้คุณ Jim Ryan CEO ของ PlayStation ได้กล่าวเพิ่มเติมถึงเจ้า DualSense ว่า “DualSense คือหมุดหมายแห่งการพัฒนาต่อยอดครั้งยิ่งใหญ่จากสิ่งที่คอนโทรลเลอร์ตัวก่อนของเรามอบให้ ทั้งยังนิยามไปถึงความรู้สึกอันแรงกล้าของเราที่ต้องการก้าวกระโดดไปพร้อมๆ กับเครื่อง PS5 เจ้าคอนโทรลเลอร์ตัวใหม่นี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์เปี่ยมนวัตกรรมมากมายบน PS5 ซึ่งจะกลายมาเป็นกระแสใหม่ให้กับเหล่าเกมเมอร์ และสานต่อเจตนารมณ์ของทาง PlayStation ที่ต้องการขยายขอบเขตของการเล่นเกมทั้งในวันนี้และอนาคตข้างหน้า และสำหรับชาว PlayStation ผมขอบคุณจริงๆ ที่ช่วยแชร์ข่าวสารของพวกเราระหว่างที่เรากำลังเตรียมจะวางจำหน่ายเครื่อง PS5 ในช่วงปลายปี 2020 นี้ ซึ่งเราเองก็เตรียมที่จะเผยข้อมูลเพิ่มเติมรวมไปถึงรูปโฉมแรกของ PS5 ในเดือนถัดไปครับ”