เกมเพลย์สนุก “Fire Emblem Warriors Three Hopes” การสู้รบสามบ้านฉบับมุโซว เรียบง่ายแต่มีความท้าทาย
อีกหนึ่งในกรรมวิธีการสร้างเกมในยุคนี้เป็นการนำต้นฉบับไปรวมร่างกับแนวมุโซว หรือที่แฟนๆทราบกันดีอยู่แล้วว่าเป็นแนวรบต่อสู้กับศัตรูเป็นกองกองทัพในฉากที่จำกัด ที่ไม่ว่าซีรีส์ดังระดับไหนก็เคยแปลงเป็นแนวมุโซวมาแล้ว และตอนนี้กับการกลับมาอีกครั้งของ Fire Emblem Warriors Three Hopes ที่ขายเฉพาะ Nintendo Switch
โดยซีรีส์ Fire Emblem เป็นเกมแนวกำหนดแผนการรบของค่าย Nintendo ที่วางขายมาตั้งแต่ยุค 90S และออกภาคต่อมาตลอด ส่วนการรวมร่างกับแนวมุโซวเคยมีการออกมาแล้ว 1 ภาคกับ Fire Emblem Warriors ที่เคยออกบน 3DS และ Switch ส่วนการกลับมาอีกครั้งจะเป็นการนำภาค Three Houses มาเป็นต้นแบบยิ่งทำให้น่าเล่นเยอะขึ้น เพราะภาคนี้ถือว่าทำออกมาก้าวหน้าแล้วก็มีความมากมายของเรื่องราว
ส่วนเรื่องราวใน Fire Emblem Warriors Three Hopes จะเกิดเหตุราวใหม่ในเวลาที่ไม่เหมือนกับภาค Three Houses แล้วก็มีการแบ่งได้เรื่องราวของ 3 บ้านที่มีทั้ง Scarlet Blaze, Azure Gleam แล้วก็ Golden Wildfire แล้วก็ผู้เล่นจะเลือกได้ว่าจะอยู่บ้านไหน ซึ่งในแต่ละเรื่องราวจะใช้เวลาคร่าวๆ 20 ชั่วโมงในการเล่นให้จบจัดว่ารวม 3 เรื่องราวจะยาวพอสมควร
แน่นอนว่าซีรีส์มุโซวกราฟิกจะไม่ใช้จุดขาย เนื่องจากว่ามันต้องออกไปต่อสู้กับศัตรูนับร้อยนับพัน ทำให้กราฟิกควรต้องถูกลดระดับลงอยู่แล้ว ยิ่งสเปกของ Switch ก็ไม่ได้แรงอะไรทำให้ภาพในเกมก็ราวภาคหลักของมันอย่าง Three Houses ที่เป็นกราฟิกแบบการ์ตูนที่ไม่ได้มีความละเอียดอะไรนัก ยิ่งฉากในเกมไม่ว่าจะเป็นสนามรบหรือเมืองที่มองดูเตียนๆทำให้ผู้ใดกันความมุ่งหวังว่ากราฟิกจะดูดีขึ้นก็ขอบอกไว้เลยว่าผิดหวังแน่
แม้กระนั้นโดยรวมแล้วภาพในเกมก็ไม่ได้หยาบช้าอะไร อยู่ในระดับมาตฐานปกติและเฟรมเรตก็ทำเป็นลื่นไหลพอเหมาะจัดว่าเล่นได้แบบไม่เสียสายตาแน่นอนอย่างไรก็ดีแม้ว่ากราฟิกอาจจะดูธรรมดาถึงแม้ส่วนที่ทำออกมาก้าวหน้าเป็นเพลงประกอบที่ทำออกมาก้าวหน้างามมีการใส่ธีมที่หรูงานสร้างเข้าไปในฉากแอ็กชัน และยังมีการใส่เพลงหลักของภาค Three Houses เข้าไปด้วย รวมทั้งเสียงเล่ายังคงจัดเต็มเกือบจะมีทุกส่วนของเกมกันเลยจัดว่าคณะทำงานลงทุนพอดี
เกมเพลย์ของภาคนี้ยังคงเดินตามรอยแนวตะลุยกองกำลังข้าศึก เพื่อเป้าหมายหลักเป็นกำจัดให้หมดและยืดพื้นที่หรือคุ้มครองป้องกันไม่ให้ศัตรูมาตีฐานของเรา ที่เป็นแนวทางหลักของซีรีส์ศูนย์รวมร่างกับแนวมุโซวแบบไม่ได้ฉีกอะไรออกไป ผู้เล่นจะได้เดินในฉากที่ค่อนจะจำกัด และก็ทำภารกิจที่กำหนดไว้แบบเข้าใจง่ายมากมายก่ายกอง เนื่องจากมีการพูดว่าจำเป็นจะต้องไปทำอะไรไหนตลอด ถึงแม้ว่าบางภารกิจจะมีเวลาจำกัดถึงแม้พลาดไปแล้วจะกลับไปทำไม่ได้อีก ทำให้ผู้เล่นจำเป็นต้องรอคอยอ่านกันตลอดจะมัวแต่สู้ไม่ได้
นอกเหนือจากนี้ผู้เล่นยังสามารถสั่งการให้เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มไปทำภารกิจบนแผนที่ได้ และก็มันห้ามให้ขาดเลยเด็ดขาดด้วยเหตุว่าบางครั้งจึงควรทำพร้อม หรือต้องแยกกรุ๊ปไปต่อสู้กับศัตรู ถือว่าทำให้เกมมีอะไรสะดุดตาล้นหลามรวมถึงเราสามารถสลับเปลี่ยนเป็นนักแสดงอื่นในฉากได้ ส่วนระบบการต่อสู้ก็เรียบง่ายด้วยเหมือนกัน เพราะว่าใช้ปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่มสำหรับในการสั่งให้ศิลปินรุกราน แล้วก็สามารถสืบต่อเป็นคอมโบได้เร็ว และยังคงใช้ผู้ที่ทำดร่วมกับปุ่ม R เพื่อปล่อยท่าหมัดเด็ดได้ และจากนั้นก็ยังมีการสะสมค่าพลังเพื่อปล่อยท่าเยี่ยมยอดที่กำจัดศัตรูได้พร้อมได้อย่างไม่ยากเย็นมากไม่น้อยเลยทีเดียว
ส่วนระบบแก้ไขดาราก็เต็มไปด้วยรายละเอียดไม่ว่าจะเป็นระบบเลเวลเหมือนเช่นเคยที่ต้องมี แล้วก็ยังมีการอัปเกรดด้วยการใส่อาวุธและไอเทมเสริม รวมทั้งยังมาพร้อมระบบอาชีพมีมาให้เลือกใช้หลากหลายอาชีพแล้วก็มีอะไรให้อัปเกรดมากมาย รวมทั้งการปรับทีท่าเด็ดที่จะสามารถลงรายละเอียดได้ว่าอยากได้ท่าที่รุกรานรุนแรงหรือย้ำกำจัดศัตรูเยอะมากๆ ซึ่งมันจำเป็นมากอย่างยิ่งถ้าเราเลือกเล่นแบบยากเนื่องจากว่าการต่อสู้กับศัตรูเป็นกองกองทัพไม่ง่ายแน่
เนื่องแต่ฉากต่อสู้ที่ไม่ค่อยมีอะไรใหม่ ทำให้ผู้สร้างเสริมด้วยระบบล้นหลามที่ทำให้เราอยู่กับเกมได้นาวนานมาก อย่างแรกที่เป็นลักษณะเด่นและทำให้ผู้เล่นคนใหม่ประทับใจเป็นมีโหมดให้ปรับปรุงมาก มีทั้งยังการปรับระดับความยาก ที่เลือกแบบง่ายสุดๆก็ทำเป็น แล้วหลังจากนั้นก็ยังมีโหมดที่เลือกได้ว่าจะเดินตามต้นแบบเดิมของซีรีส์ที่ถ้าหากว่าพลาดตายแล้วดาราหนังนั้นก็จะหายไปจากเกมเลย หรือเลือกแบบที่ดาราหนังไม่หายไปได้ด้วย