10 ความซํ้าซากและเชยสะบัดของโลกเกมที่เราไม่เคยเกลียดมันเลย
10 ความซํ้าซากและเชยสะบัดของโลกเกมที่เราไม่เคยเกลียดมันเลย – วงการวิดีโอเกมมีอายุและความเป็นมายาวนานประมาณหนึ่งแล้วนะครับ พวกเรายังคงมีเกมใหม่ๆ เปิดตัวมาให้เล่นกันทุกๆ ปี ถึงอย่างนั้นในความเป็นเกมใหม่ หลายๆ ครั้งมันมักจะมีฟีเจอร์บางอย่างจากเกมเก่าๆ ที่ได้รับกับต่อยอด ขณะที่บางอย่างก็ถูกคงไว้อย่างนั้น เพราะมันให้ความรู้สึกว่า “ก็ไม่ได้แย่นะ ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแล่ะ” ซึ่งแม้แต่ตัวคนเล่นเองก็ตล้อยตามไปด้วย คือไม่ได้ถึงกับหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่ต้องพบพานมันในเกม ในทางกลับกันเรามักจะมองข้ามความครํ่าครึเหล่านี้ ด้วยชุดความคิดคล้ายๆ กันว่า “แบบนี้ก็ดีแล้วล่ะ” ก็มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
จะอะไรมากก็แค่หนูแหละ
เรามักจะพูดกันขำๆ ถึงความไม่สมจริงของเกมแนวลอบเร้น เวลาที่ยามออกตรวจตราแล้วมักจะเดินตรวจไม่หมด หรือล้มเลิกเสียกลางทางจากนั้นก็ทำเป็นลืมทุกๆ อย่างไป แน่นอนเรารู้สึกว่ามันไม่เมคเซนส์สักนิด ทำไมยามในเกมแนวนี้ชอบติดประมาทอยู่เรื่อย ทั้งยังเป็นมานานนมตั้งแต่เกมเมื่อสักทศวรรษที่แล้วยันปัจจุบันก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่ แต่ก็นั่นแหละถ้าต้องเจอยามแบบไล่ล่าทุกเม็ดตามเช็ดทุกเวลาจนภารกิจไม่คืบหน้าล่ะก็ เราขอยามแบบที่มองไม่เห็นเราแอบอยู่แล้วคิดว่าผู้บุกรุกเป็นแค่หนูดีกว่า

กดก้มเพื่อหายตัว
ยังคงอยู่กับเกมแนวลอบเร้นที่หลายๆ เกมซึ่งหากไม่ใช่เกมที่จริงจังหรือสมจริงจัดๆ การจะซ่อนตัวจากศัตรูมักจะทำได้ด้วยวิธีการง่ายๆ อย่างเข้าไปอยู่ในพงหญ้าสูงๆ, ยืนในที่มืด หรือแค่เพียงกดก้มตัวเท่านั้น — หายตัวอย่างสมบูรณ์แบบ เหล่า NPC ก็จะเดินผ่านไปโดยไม่ได้ใส่ใจสักนิด แถมบางครั้งเราก็ไม่จำเป็นต้องใช้พงหญ้าหรือที่มืดเสียด้วยซํ้า บางเกมแค่อาศัยจังหวะดีๆ เราก็ชะแว้บไปอยู่ด้านหลัง NPC ได้แล้ว ซึ่งเอาจริงๆ มันก็แอบตลกอยู่ไม่หยอก อย่างพงหญ้าเนี่ยมันต้องหนาแน่นขนาดไหนถึงจะไม่มีใครสามารถเห็นตัวเราได้กันนะ เป็นความไม่สมจริงที่ก็ได้แต่สงสัย แต่ก็ไม่ได้เกลียดมันสักเท่าไหร่หรอก

ฉากโชว์เท่รวมพล
สิ่งนี้มักเกิดขึ้นกับเกมแนวๆ RPG ที่เราได้มีโอกาสออกไปรวบรวมสมัครพรรคพวกมากหน้าหลายตาเพื่อมากู้โลก และฉากประมาณนี้มักจะเกิดขึ้นในตอนท้ายๆ ก่อนเปิดศึกใหญ่หรือเข้าสู้กับบอสตัวสุดท้าย ที่เหล่าตัวละครซึ่งเราออกไปรวบรวมมาตลอดทั้งเกมจะมาโผล่ในซีนเดียวกัน พร้อมท่าทางเฉพาะตัวนัยว่าพร้อมแล้วที่จะก้าวสู่จุดจบไปพร้อมกัน แม้หลายๆ ครั้งอาจจะทำออกมาดูเชยไปหน่อย แต่มันก็เท่จริงๆ สิพับผ่า!

รู้เขาหลอกแต่เต็มใจให้หลอก
เป็นช่วงเวลาที่คุณจะเจอคีย์ไอเทมหรือกล่องสมบัติที่บรรจุของลํ้าค่าไว้ภายใน ประเด็นคือจุดที่วางมันไว้จะค่อนข้างเด่นสะดุดตา และเชื้อเชิญให้เข้าไปเก็บมันมากๆ ซึ่งคุณก็รู้แหละว่าถ้าเก็บมันมาปุ๊บก็อาจต้องเจอฝูงศัตรู, ปีศาจ และซอมบี้จำนวนมากเข้าถาโถมใส่ แต่แล้วยังไงล่ะ นอกจากจะเป็นแหล่งฟาร์มชั้นยอด ก็ยังอาจจะเป็นจุดให้เราได้ลองของใหม่ที่เพิ่งเก็บมา ที่สำคัญคือเมื่อคุณรู้ว่าเป็นกับดักแต่เต็มใจพุ่งเข้าใส่ คุณก็มักจะเตรียมตัวมาลุยในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ดังนั้นการพุ่งเข้าหากับดักเพื่อก่อเกิดฉากแอคชั่นใหญ่ๆ สักฉาก นัยหนึ่งก็ถือว่าเป็นความหฤหรรษ์ไม่น้อยเลย

นายเก็บคนทางซ้าย
พบเห็นได้ทั่วไปในเกมตระกูล Call of Duty มีตั้งแต่ภาคแรกๆ ยันปัจจุบัน กับสถานการณ์ลอบเร้นที่คุณต้องตะลุยไปกับ จ่า, ผู้กอง, ผู้พัน ฯลฯ เพื่อแทรกซึมเข้าสู่แดนข้าศึก ทันใดนั้นคุณก็เจอเข้ากับศัตรู 2 คนที่จำเป็นต้องสังหารพร้อมๆ กัน “นายเก็บคนทางซ้าย” เสียงจากตัวละคร NPC ที่มักจะมียศสูงกว่าเราเสมอสั่งการออกมา จากนั้นก็เป็นหน้าที่เราที่ต้องเล็งยิงให้พร้อมๆ กับตัว NPC นั่นแหละ เป็นมุขเก่าที่เจออย่างเยอะแต่ก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อเรายังรู้สึกว่ามันเจ๋งอยู่ตลอดยามได้ทำอะไรแบบนี้

เจอบอสใหญ่ดูถูกและถากถางตอนต้นเกม
มีหลายต่อหลายเกมเลยที่มักเลือกที่จะเปิดตัวบอสใหญ่ตั้งแต่ช่วงต้นเกม บางครั้งเราก็จะได้สู้ด้วยแล้วก็จะเจอซีนบังคับแพ้ไป ซึ่งพอเป็นแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วสิ่งที่ผู้เล่นจะต้องเจอก็คือคำดูถูกถากถางจากบอสใหญ่ “แกมันไม่ได้ความ”, “แกไม่สามารถแก้ไขอะไรได้หรอก”, “น่าสมเพช กระจอกจริงๆ” อะไรประมาณนี้ โดยฉากประเภทนี้ถ้าตัวโกงไม่ติดประมาทหรือจงใจยอมปล่อยเราไป ก็มักจะมีเหตุให้เรายังไม่ตาย หนีไปได้ พลางเก็บความคับแค้นเอาไว้ไประบายใส่พี่แกอีกทีหลังจากนี้ราวๆ 30 ชั่วโมงให้หลัง ฉากแบบนี้ถูกใช้เยอะมากๆ ในเกมแอคชั่นผจญภัยหรือ RPG ซึ่งว่าตามตรงไม่ว่าจะกี่ครั้งหากเกมทำได้ถึง มันก็ช่วยสุมไฟในการเล่นเกมให้ผู้เล่นได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ฉากสโลว์โมชั่นเฮดช็อตเพื่อช่วยตัวละครสำคัญ
ในเกมแนวแอคชั้นหรือ FPS มักจะมีฉากนี้อยู่บ่อยๆ นะครับ เมื่อ NPC คนสำคัญของเนื้อเรื่องถูกตัวร้ายจับเป็นตัวประกัน และจากนั้นก็มักจะมีเหตุให้ตัวเราสบช่องในการซัลโวลูกตะกั่วยัดหน้าผู้ร้ายเพื่อช่วยตัวประกัน และอาจเพราะเป็นฉากสำคัญที่ไม่ควรยิงพลาด ฉากประมาณนี้จึงมาพร้อมการสโลว์โมชั่นให้เราได้เล็งยิงแบบนิ่งๆ คูลๆ รู้สึกว่าตัวเองหล่อทุกครั้งเวลาพบพานอะไรแบบนี้

ฉากพบโลกกว้างครั้งแรกหลังออกจากป่าหรืออุโมง
มักพบเจอได้ในช่วงต้นเกมที่เหมือนเป็นการพรีเซนต์เซ็ตติ้งของเกมกลายๆ ยิ่งหากเป็นเกมแนวๆ Open World ซึ่งผู้เล่นสามารถออกสำรวจได้ด้วยแล้วก็จะยิ่งรู้สึกอิน และกระตุ้นต่อมความอยากให้กระเหี้ยนกระหือรือจะเล่นเกมได้เป็นอย่างดี

ถังระเบิดสีแดง
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเซ็ตมาตรฐานนี้ขึ้นมา ไม่แน่ใจว่าเมื่อไหร่กันนะที่ถังสีแดงกลายเป็นสเตอริโอไทป์ของถังเชื้อเพลิงที่เรายิงให้ระเบิดได้ เรียกได้ว่ามีในเกมแอคชั่นแทบจะทุกเกมเลยดีกว่า จนบางครั้งเราก็สงสัยว่าทำพวกศัตรูจะต้องยืนข้างๆ ถังที่มีสีเด่นสะดุดตาขนาดนี้ด้วย แต่ความสงสัยก็คือความสงสัย นัยหนึ่งเวลาเราพบอีถังนี้ก็จะบังเกิดความอุ่นใจขึ้นในมุมหนึ่ง พลางก่อกำเนิดความมั่นใจเมื่อมีถังแดงสะท้อนอยู่ในดวงตา ว่าเวลาที่จะคอสเพลย์เป็น ไมเคิล เบย์ ได้มาถึงแล้ว

โลกกำลังจะล่มสลาย แต่เรายังมีเวลาเอ้อระเหย
เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไปในเกม RPG Open World ผู้เล่นจะถูกคนเล่าเรื่องหรือ NPC ตัวสำคัญๆ บอกเล่าถึงเรื่องราวและวิกฤตการณ์ที่ใกล้จะทำให้โลกล่มสลายเข้ามาทุกขณะ จากนั้นก็จะขอฝากฝังทุกอย่างไว้กับเรา ซึ่งสิ่งแรกที่เรามักจะทำหลังจากได้โอกาสออกท่องโลกกว้างเพื่อปราบปีศาจก็คือ… ทำเควสต์ส่งของหาเงิน, เข้าสวนเก็บผลไม้ให้ได้ตามที่แม่ค้าต้องการ, เข้าถํ้าฟาร์มเลเวล, ลงดันเจี้ยนหาอาวุธเทพๆ, แวะริมธารเพื่อตกปลา, พักผ่อนกายาจีบสาว หรือพุ่งหลาวเข้าโรงเหล้าท้าดูเอลการ์ดกับเจ้าของร้านทั่วราชอาณาจักรเพื่อเก็บสะสมการ์ดหายากในตำนาน แน่นอนว่าเมื่อคิดถึงความเป็นจริงแล้วเราจะดูเป็นไอ้เหลวแหลกคนหนึ่งที่ไม่น่าจะช่วยโลกได้ ทั้งยังเกิดคำถามมากมายเช่นว่า “แล้วทำไมกองทัพจอมมารไม่บุกซะทีฟระ?” แต่ในเมื่อเกมก็เปิดโอกาสให้คุณเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ ได้โดยที่ไม่มีเดดไลน์กำหนด ทั้งยังไม่มีใครมาบอกว่าเมื่อใดกันที่โลกจะล่มสลายเสียที กับสิ่งมีชีวิตที่เกิดมาพร้อมกับเจตจำนงเสรีอย่างมนุษย์… มันก็คงเป็นเรื่องที่อาจจะพูดได้เพียงแค่ว่า “ช่วยไม่ได้แฮะ”