รีวิว Predator: Hunting Grounds – บาลานซ์ไม่ดี งานนี้มีพัง
เกมส์PS5 แพลตฟอร์ม: PS4, PC (ทีมงานรีวิวจากเวอร์ชั่น PS4)
ผู้พัฒนา: IllFonic
แนวเกม: FPS, มัลติเพลเยอร์สไตล์ 4 vs 1
**ทีมงาน Online Station ขอขอบคุณบริษัท Sony Interactive Entertainment สาขาประเทศสิงคโปร์ ที่เอื้อเฟื้อโค้ดเกมเพื่อใช้ในการรีวิวมา ณ ที่นี้ด้วยครับ**

ผู้เขียนจำได้ว่าเมื่อตอนที่เกม Predator: Hunting Grounds ถูกประกาศเปิดตัวใหม่ ๆ ด้วยแนวเกมแบบ Asymmetrical Multiplayer หรือที่เรียกกันแบบง่าย ๆ ว่า แนว 4 vs 1 ซึ่งเป็นแนวที่กำลังได้รับความนิยมในระยะหลังก็เกิดความรู้สึกอยู่ 2 อย่างครับ อย่างแรกคือตื่นเต้นที่เราจะได้อารมณ์การไล่ล่าและการสร้างทีมเวิร์คเพื่อต่อกรกับอสุรกายจากต่างดาวในเวลาเดียวกัน แต่อีกใจก็คือ “เป็นห่วง” เพราะเกมแนวนี้มักจะตกม้าตายเอาง่าย ๆ หากระบบเกมไม่มีบาลานซ์ที่ดีพอ และน่าเสียดายที่เกมนี้ดันเป็นอย่างหลัง…

สำหรับเกมนี้จะมีการรองรับระบบ Cross-platform โดยผู้เล่นบน PS4 กับ PC สามารถหาห้องมาเจอกันเองได้ ข้อดีก็คือเราจะมีโอกาสสุ่มเจอผู้เล่นได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน โดยพื้นฐานแล้ว ผู้ที่เล่นบน PC ก็จะมีข้อได้เปรียบในเรื่องของการเล็งยิงที่ไวกว่าการใช้จอยอยู่ระดับนึง เว้นแต่ถ้าใครเล่นเกมแนว FPS บนจอยจนชำนาญแล้วก็พอลดความเหลื่อมล้ำตรงนี้ไปได้

บรรยากาศของเกมในแต่ละแมพ ส่วนมากจะมาแนวป่าดงดิบ ซึ่งฝั่งพรีเดเตอร์สามารถใช้เทคโนโลยีพรางตัว ควบคู่กับอาวุธสังหารสุดไฮเทคในการไล่ล่าได้อย่างมีอรรถรสมากขึ้น โดยความรู้สึกในการบังคับพรีเดเตอร์ออกปีนป่ายตามต้นไม้ด้วยแนวทางคล้ายกับปากัวร์มีการนำเสนอได้ดี แต่เอาเข้าจริง การจะเล่นพรีเดเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสังหารผู้เล่นฝั่งมนุษย์ 4 คน ก็ต้องอาศัยการเรียนรู้การใช้อาวุธและทักษะต่าง ๆ ของพรีเดเตอร์จนรู้ช่ำชองก่อนว่าอะไรเป็นอะไร อาวุธไหนใช้ได้ดีในสถานการณ์อย่างไร ซึ่งกระบวนการที่ว่ามานี้ใช้เวลานานมาก และน่าจะทำให้ผู้เล่นเกิดความท้อแท้ เผลอ ๆ จะเปลี่ยนไปเล่นเกมอื่นแทนกันง่าย ๆ เลย

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? อย่างแรกก็คือเกมนี้จัดว่ามีสมดุลในระดับต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เพราะตัวเกมไม่มีทางเลือกให้กับผู้เล่นฝั่งพรีเดเตอร์มากนัก ถ้าคุณเป็นพรีเดเตอร์หน้าใหม่ที่แม้แต่ Tutorial ก็ไม่อ่าน หรือไม่ลองศึกษาแอ็กชั่นต่าง ๆ ของพรีเดเตอร์มาก่อนเลย หากต้องการจะเอาชนะสักแมตช์ เราจะต้องล่อทีมมนุษย์ให้แตกกลุ่มออกมาแล้วค่อยดักเก็บเอา เนื่องจากต่อให้พรีเดเตอร์มีพลังชีวิตที่มากกว่ามนุษย์ แต่พอโดนรุมยิงไม่กี่อึดใจก็ร่วงอย่างไว และธรรมชาติเกมเพลย์ของผู้เล่นฝั่งมนุษย์นั้นแทบไม่ต้องทำความเข้าใจอะไรมากมาย เพราะมันคล้ายกับเกมแนว FPS ทั่วไปที่เล็งให้แม่น และตามเพื่อนในทีมไปทำภารกิจ (Objective) ให้สำเร็จก็พอแล้ว

อย่างที่กล่าวไปในย่อหน้าก่อน ภาพรวมของเกมนี้เหมือนจะยังติดหล่มกับการสร้างสมดุลต่อกันระหว่างฝั่งพรีเดเตอร์กับฝั่งมนุษย์ มิหนำซ้ำความสนุกของเกมส่วนใหญ่ดันต้องพึ่งพาทักษะของคนที่อยู่ฝั่งพรีเดเตอร์เป็นหลัก หากเจอคนเล่นพรีเดเตอร์เก่ง ๆ และ “รู้ทริค” ก็จะดูท้าทายขึ้นมาเป็นกอง แต่ถ้าเจอคนเล่นระดับตาสีตาสา หรือกำลังงมกับวิธีการเล่น ลำพังฝั่งมนุษย์ถ้าไม่ทะเล่อทะล่าไปไหนมาไหนคนเดียวก็แทบจะไม่มีทางแพ้เลย ยิ่งไปกว่านั้น ทุกครั้งที่พรีเดเตอร์โดนลูกตะกั่วจากฝั่งมนุษย์ยิงใส่ ก็จะทิ้งรอยเลือดสีเขียวเรืองแสงให้เห็นสะดุดตา หลังจากนั้นขอเพียงมนุษย์ทั้ง 4 ไล่ตามรอยเลือดไป สถานการณ์ก็จะกลับตาลปัตร กลายเป็นฝ่ายรุมสกรัมผู้มาเยือนจากต่างดาวแทน เลยไม่รู้ว่าตกลงใครเป็นผู้ล่ากันแน่ (ฟะ)

มิชชั่นที่มีให้ฝั่งมนุษย์ทำระหว่างแมตช์ มักจะเป็นการทลายแก๊งค้ายาที่มีแหล่งกบดานอยู่ในป่า โดยมีผู้เล่นฝั่งพรีเดเตอร์คอยสอดส่องสถานการณ์แล้วดักลอบสังหารผู้เล่นฝั่งมนุษย์เมื่อสบโอกาส ซึ่งมิชชั่นยิบย่อยเหล่านี้จะอาศัยการวิ่งจากจุดนึงไปอีกจุดนึงบ่อย และค่อนข้างน่าเบื่อ เหมือนใส่มาเพื่อสร้างความชอบธรรมว่าโลเคชั่นในการสู้กับพรีเดเตอร์ต้องเป็นในป่าเท่านั้น

พอบาลานซ์ในเกมมาทรงนี้ แถมยังต้องรอคนหัดเล่นพรีเดเตอร์จนชำนาญกว่าจะหาความสนุกเจอ มันเลยพาลเป็นจุดเสียร้ายแรงที่ทำให้เกมนี้ไม่น่าจะประสบความสำเร็จ ในขณะที่การหาห้องก็แอบมีลูกผีลูกคนอยู่ บทจะหาคนเจอก็หาง่ายใจหาย บทจะหายากก็รอกันร่วม ๆ 5-10 นาที (เคราะห์ดีที่ส่วนใหญ่จะหาคนได้ไว) แต่ก็ยังเทียบไม่ได้กับปัญหาความสมดุลในเกมที่ชวนเอาเท้าก่ายหน้าผากแล้วครับ
จุดเด่น
- เพลงประกอบและงานด้านซาวด์ต่าง ๆ ให้อารมณ์เหมือนอยู่ในหนัง Predator จริง ๆ
- คอนเซ็ปต์หรือไอเดียตั้งต้นของเกมน่าสนใจ
- สามารถเล่นแบบ Cross-platform เจอกับคนที่เล่นบน PC ได้
จุดด้อย
- บาลานซ์ของเกมยังต้องมีการแก้ไขอีกมาก ฝั่งมนุษย์กุมความได้เปรียบเยอะเกินไป
- เป้าหมายภารกิจของฝั่งมนุษย์ไม่มีความหวือหวาและค่อนข้างจำเจ
- พบปัญหาเชิงเทคนิคยุบยับเต็มไปหมด ไม่ว่าจะบั๊กในฉาก หรือเสียงพูดตัวละครขาดหายบางจุด
- มีแมพให้เล่นน้อยไปหน่อย
สรุป
- ต่อให้มองแบบแง่ดีหน่อย Predator: Hunting Grounds ก็ยังไม่เหมาะที่จะนำมาเล่นเป็นเกมฆ่าเวลาอยู่ดีครับ เว้นเสียแต่ทางทีมผู้พัฒนาจะออกแพตช์ปรับปรุงสมดุลของเกมให้ดีกว่านี้ ซึ่งประเด็นดังกล่าวมันก็คือหัวใจของเกมแนวนี้ดี ๆ นี่เอง