จัดเต็มกับบทสัมภาษณ์ผู้พัฒนาเกม Marvel’s Avengers ถึงเรื่องน่ารู้ต่าง ๆ
ตอนนี้เหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 3 เดือน เกมเมอร์ทั่วโลกก็จะได้สัมผัสกับเกมฟอร์มยักษ์จากจักรวาลมาร์เวลอย่าง Marvel’s Avengers แล้วนะครับ ซึ่งตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 4 กันยายนที่จะถึงนี้บนแพลตฟอร์ม PS4, Xbox One, Stadia และ PC โดยล่าสุดทาง Online Station ก็ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในกลุ่มสื่อมวลชนของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ร่วมสัมภาษณ์ตัวแทนทีมผู้พัฒนาเกมดังกล่าวด้วย ได้แก่ คุณ Scot Amos ตำแหน่งผู้บริหารของสตูดิโอ Crystal Dynamics, คุณ Shaun Escayg ตำแหน่ง Creative Director, คุณ Phil Therien ตำแหน่ง Warzone Director และ คุณ Vince Napoli ตำแหน่ง Combat Director ว่าแล้วเรามาชมบทสัมภาษณ์กันโลด!
(ล่าง) คุณ Scot Amos

(ล่าง) คุณ Shaun Escayg

(ล่าง) คุณ Phil Therien

(ล่าง) คุณ Vince Napoli

ในกระบวนการของการพัฒนาตัวละครต่าง ๆ ในเกม บรรดาทีมงานตัดสินใจที่จะโฟกัสแต่ละตัวละครในฐานะแฟน Marvel คนหนึ่งว่าอะไรที่ทำให้ตัวละครนั้น ๆ เป็นที่นิยมของแฟน ๆ และอะไรทำให้ตัวละครนั้นเป็นอย่างที่เป็นจนทุกวันนี้ จากนั้นก็เริ่มใส่ระบบการต่อสู้ให้กับตัวละครดังกล่าว แล้วออกแบบ AI เพื่อทำงานร่วมกับระบบทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหว การล็อคเป้า ฮีโร่แต่ละตัวจะมีความสามารถเฉพาะที่ฮีโร่ตัวอื่นไม่มี ขณะเดียวกัน ศัตรูต่าง ๆ ในเกมก็จะถูกออกแบบมาเพื่อต่อกรกับเหล่าฮีโร่ Avengers ได้สมน้ำสมเนื้อด้วย

ถัดมาเป็นเรื่องของระบบสกิลซึ่งมีความยืดหยุ่นมาก ผู้เล่นสามารถอัพเลเวลตัวละครได้ถึงเลเวล 50 ทุกครั้งที่เราเลเวลอัพก็จะได้สกิลใหม่มา โดยสกิลจะถูกแบ่งออกไปอีก 3 สาย แต่ละสายก็จะมีผลลัพธ์ทำให้สไตล์การต่อสู้ออกมาต่างกัน อย่างค้อนของธอร์ก็จะเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีได้ตามสายสกิลที่เราเลือกไว้ เป็นต้น

ทั้งนี้ ทีมงานไม่ได้นับว่าตัวเกมจะมีความยาวของโหมดเนื้อเรื่องประมาณเท่าไหร่ ทว่าพวกเขาได้อธิบายว่าเกมนี้มีคอนเทนต์ยิบย่อยนับร้อยให้เราได้เพลิดเพลินกันมัน และสามารถเล่นซ้ำได้หลายรอบ ด้วยการเปลี่ยนตัวละครฮีโร่ไปเล่นเป็นตัวอื่น เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่ต่างออกไปนั่นเอง

อีกระบบที่น่าสนใจคือการดรอปไอเทมจากศัตรูหลังกำจัดได้ โดยไอเทมที่ดรอปจะมีระดับความแรร์ และคุณสมบัติของไอเทมนั้น ๆ ผันแปรอัตราการดรอปตามระดับความยากที่เราเล่น และขึ้นอยู่กับ Performance ของเราระหว่างเล่นด้วย ไอเทมที่มี Rank สูงสุดจะมีชื่อกำกับว่า Prime ที่มีคุณสมบัติและอบิลิตี้ชั้นเยี่ยมติดตั้งอยู่ในไอเทม ส่วนไอเทมไหนที่มีคำว่า Hero กำกับก็จะมีคุณสมบัติเฉพาะที่หาไม่ได้จากไอเทมชิ้นอื่นติดตั้งไว้ครับ

อนึ่ง ทีมงานตัดสินใจพัฒนาให้เกมนี้เป็นแนวโอเพ่นเวิลด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยแบ่งพื้นที่ให้ผจญภัยเป็นภูมิภาค ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็จะมีลักษณะภูมิประเทศที่แตกต่างกันไป ทั้งโซนที่เป็นป่า, เมือง, ทะเลทราย, โบราณสถาน, ใต้น้ำ หรือแม้แต่ฐานทัพ ผู้เล่นสามารถเลือกออกไปปฏิบัติภารกิจปราบหน่วย A.I.M. ที่เป็นวายร้ายของเกมนี้ ตามที่มีแสดงผลให้ดูตามพื้นที่ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างอิสระเลยทีเดียว

ทีมผู้พัฒนาแนะนำว่า เมื่อเล่นเกมเป็นครั้งแรกควรจะลองเล่นโหมดเนื้อเรื่องก่อน เพื่อศึกษาตัวละคร เนื้อเรื่อง และโลกของเกมให้คุ้นชินเสียก่อน แม้ว่าจะมีผู้เล่นบางคนอยากลุยโหมด Warzone ก่อนหรือเล่นร่วมกันกับเพื่อน ๆ ก่อนไปลุยเนื้อเรื่อง ก็ต้องอธิบายก่อนว่าอุปกรณ์บางอย่างจะได้มาก็ต่อเมื่อเล่นโหมดเนื้อเรื่องเท่านั้นครับ ถ้าใครอยากจะอุ่นเครื่อง เตรียมความพร้อมก่อนลงสนามใน Warzone ก็อยากให้เล่นโหมดเนื้อเรื่องก่อนจะดีกว่า

ในเกมจะมีส่วนของ Marketplace ที่จำหน่ายเครื่องแต่งกายของตัวละคร สกินต่าง ๆ ที่ไม่มีผลกับความสามารถหรือสกิลใด ๆ ด้วยเงินจริง แต่กับพวกเครื่องแต่งกาย สกิลที่มีผลกับการต่อสู้ หรือมีผลกับความได้เปรียบเสียเปรียบ จะได้ก็ต่อเมื่อผ่านภารกิจในเกม หรือใช้เวลาเล่นเกมนี้ในโหมดเนื้อเรื่องไปนาน ๆ เท่านั้น โดยคอสเมติกจะต้องใช้เงินจริงซื้อเท่านั้น ขณะที่อุปกรณ์เพิ่มความสามารถจะได้จากการปลดล็อคในเกมด้วยฝีมือผู้เล่นเท่านั้นเช่นกัน

อุปกรณ์สวมใส่ในเกมจะมีผลต่อความสามารถโดยรวมของตัวละคร ยิ่งอุปกรณ์ดีเท่าไหร่ ตัวละครก็จะรับมือกับศัตรูได้หลากรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นศัตรูต่างชนิดกัน รวมถึงรับมือกับรูปแบบการเข้าจู่โจมของศัตรูด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ซึ่งทีมงานได้พิถีพิถันกันการออกแบบในทุกรายละเอียดกันอย่างเต็มที่ ไม่เว้นแม้แต่โลเคชั่นและระบบเกมเพลย์ โดยเฉพาะใน Warzone ที่จะมอบประสบการณ์แตกต่างกันเมื่อเข้าไปเล่นแต่ละครั้งกันเลย

ปิดท้ายด้วยคำถามที่พูดถึงความเป็นไปได้ในการสร้างจักรวาล Marvel เวอร์ชั่นเกม ให้เหมือนกับฝั่งภาพยนตร์ที่มีจักรวาลของตัวเอง ทางทีมผู้พัฒนาได้กล่าวว่าเกมนี้จะมีเนื้อเรื่องเฉพาะของตัวเองเลย แม้แต่ตัวละครอย่าง Kamala Khan ก็จะมีเนื้อเรื่องของตัวเองเช่นกัน โดยทีมงานตั้งใจสร้างเนื้อเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเพื่อเล่าในแบบฉบับของตัวเอง เมื่อผู้เล่นลองเล่นเกมดู ก็จะได้เห็นการสอดประสานของเหล่าฮีโร่ พล็อตเรื่อง และโลกของเกมที่เข้ากันอย่างกลมกล่อมเลย และสเกลของเรื่องราวก็จะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย
